FTTx Overview
เทคโนโลยี PON หรือ FTTx (FTTH, FTTC, FTTB for Fiber to the Home/Curb/Building and etc.) ค่อนข้างกำลังมาแรงนะครับ ผมเลยขอสรุปอย่างสั้นๆ สำหรับรูปแบบต่างๆของเทคโนโลยีนี้สักหน่อย ส่วนประกอบหลักๆของ FTTx ก็จะประกอบไปด้วย OLT(Optical Line Terminating Unit), ONT(Optical Network Terminating Unit), Optical Splitter ที่ ratio ต่างๆ เช่น 1:4, 1:8 โดย OLT ก็จะอยู่ที่สถานีของผู้ให้บริการ บน OLT ก็จะมี Port optic อยู่หลายๆ port แต่ละ port ก็จะเป็น fiber เส้นเดียวต่อออกไปนะครับ แล้วก็ไปเข้า Optical Splitter เพื่อแยกออกไปตามบ้านผู้รับบริการแต่ละรายซึ่งจะมีอุปกรณ์ ONT อยู่เพื่อแปลงจาก fiber เป็น user interface ในรูปแบบต่างๆเช่น Ethernet port เป็นต้น fiber เส้นเดียวนี้ก็จะ carry traffic ทั้ง Tx และ Rx โดยจะแบ่งใช้ bandwidth กันในลักษณะ TDM คือแบ่งกันด้วยเวลา ขา downstream จาก OLT ไป ONT ก็จะเป็นลักษณะ broadcast ออกไป ส่วนขา upstream สำหรับแต่ละ ONT ก็จะต้องมีการรอจังหวะ timeslot ของตัวเองเพื่อจะส่ง traffic ออกไป
เทคโนโลยี FTTx นั้นในปัจจุบันมีอยู่สามแบบหลักๆด้วยกัน เรียกกันสั้นๆว่า BPON, GPON และ EPON (หรือ GEPON) BPON จะเป็นแบบ ATM-Based, GPON จะเป็นลักษณะ ATM บวกกับ Ethernet ส่วน EPON นั้นก็จะเป็น Ethernet Based เต็มๆ ล่าสุดนั้นมี WDM PON หรือ LambdaPON โดยแทนที่จะเป็นการแบ่งใช้ bandwidth ในลักษณะ TDM ก็จะเป็นการแบ่งไปคนละ Lambda เลย ซึ่งก็ทำให้มีข้อดีอยู่มากพอสมควรเช่น protocol transparent, แต่ละ ONT ได้ bandwidth สูงถึง 1.25 Gbps (ที่มีขายอยู่ตอนนี้นะครับ) และก็ทำการ guarantee QoS และ Security ได้ชัดเจนกว่า แต่ก็แน่นอนครับข้อเสียตอนนี้ก็คืออุปกรณ์มีราคาแพงกว่ามากนั่นเอง
เทคโนโลยี FTTx นั้นในปัจจุบันมีอยู่สามแบบหลักๆด้วยกัน เรียกกันสั้นๆว่า BPON, GPON และ EPON (หรือ GEPON) BPON จะเป็นแบบ ATM-Based, GPON จะเป็นลักษณะ ATM บวกกับ Ethernet ส่วน EPON นั้นก็จะเป็น Ethernet Based เต็มๆ ล่าสุดนั้นมี WDM PON หรือ LambdaPON โดยแทนที่จะเป็นการแบ่งใช้ bandwidth ในลักษณะ TDM ก็จะเป็นการแบ่งไปคนละ Lambda เลย ซึ่งก็ทำให้มีข้อดีอยู่มากพอสมควรเช่น protocol transparent, แต่ละ ONT ได้ bandwidth สูงถึง 1.25 Gbps (ที่มีขายอยู่ตอนนี้นะครับ) และก็ทำการ guarantee QoS และ Security ได้ชัดเจนกว่า แต่ก็แน่นอนครับข้อเสียตอนนี้ก็คืออุปกรณ์มีราคาแพงกว่ามากนั่นเอง